วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สรีรวิทยากับกีฬาบาสเกตบอล

สรีรวิทยาสำหรับบาสเกตบอล
     ในการเล่นบาสเกตบอลให้ประสบความสำเร็จ นักกีฬาต้องมีการเตรียมความพร้อมจากหลักการของวิทยาศาสตร์การกีฬาในทุกด้าน สำหรับด้านร่างกาย นักวิชาการอธิบายว่านักบาสเกตบอลที่เล่นแบบรุกต้องการพลังงานแบบแอโรบิคในระดับปานกลางถึงมากที่สุด และผู้เล่นที่เล่นแบบรับใช้พลังงานแบบแอโรบิคในระดับต่ำถึงปานกลางสำหรับการรีบาวนด์ อย่างไรก็ตามมีการเล่นบาสเกตบอลประกอบด้วยการระเบิดพลังในช่วงสั้น ๆ เช่น การกระโดดยิง การกระโดดแย่งบอล การวิ่งระยะสั้น ๆ การรับ-ส่ง และยิงประตูหรือเรียกได้ว่าใช้พลังงานในระบบแอนแอโรบิคด้วยในเวลาเดียวกัน
     การศึกษาระบุว่าในระหว่างการเล่นบาสเกตบอลมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นในขณะที่อัตราการใช้ออกซิเจนต่ำลงเพราะการใช้พลังงานแบบแอนแอโรบิคเป็นการใช้พลังในระยะสั้น ๆ ที่ต้องการการพักและระบบออกซิเจนก็เข้ามาแทนที่เพื่อช่วยในการสร้างพลังงานในการเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
     บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ต้องการการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วทั้งการหยุด การกลับตัว การกระโดดและการเคลื่อนที่ ความเฉพาะในการเปลี่ยนตัวเข้า-ออกได้ตลอดเกมทั้งการแข่งขัน นักกีฬาที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจะนั่งพักเพื่อรอการเล่นรอบต่อไปซึ่งความเหนื่อยล้าจากการเล่นทำให้ร่างกายมีกรดแล็กติก ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เมื่อยล้า (Fatigue) หากมีสะสมมากเกินไปจะทำให้เกิดการคั่งของกรดแล็กติกในกล้ามเนื้อมากขึ้นเพราะปริมาณของออกซิเจนไม่เพียงพอแก่ความต้องการหรือเกิดภาวะเป็นหนี้ออกซิเจน (Oxygen Deficit)
     การออกกำลังกายเช่นนี้มักดำเนินต่อไปได้ไม่เกิน 2 -3 นาที เพราะกล้ามเนื้อไม่สามารถทำหน้าที่ของมันต่อไปได้ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของร่างกายมีประสิทธิภาพลดลงซึ่งนักกีฬาที่มีสมรรถนะของร่างกายที่ไม่ดีก็จะทำให้เหนื่อยง่าย ไม่สามารถพักฟื้นสภาพได้อย่างรวดเร็วและมีผลต่อความแม่นยำในการรับ ส่งและยิงบอลด้วย 
     สมรรถภาพที่สำคัญในการเล่นบาสเกตบอลแยกเป็น 2 ส่วน คือ การฝึกร่างกายขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย การฝึกที่เน้นการใช้พลังงานแบบแอนแอโรบิค ความยืดหยุ่น ความแข็งแรง ความทนทาน ความเร็ว และพลัง ส่วนที่สองเป็นการฝึกร่างกายเฉพาะส่วน เช่น ความเร็วในการก้าวเท้า ความเร็วในการใช้มือ ความสามารถในการสปริงตัว ความคล่องตัวในการหลบหลีก การวิ่งกระโดด และการทรงตัวเป็นต้น ซึ่งองค์ประกอบแต่ละตัวจะมีส่วนช่วยในการพัฒนานักกีฬาให้มีความสามารถทางกายที่ดีขึ้นโดยเฉพาะการเล่นบาสเกตบอลในปัจจุบันมีความหนักในการเล่นระหว่างเกมที่สูงมาก (การใช้ออกซิเจนมากกว่า 70% และใช้พลังงานมากกว่า 4,000 กิโลแคลลอรี่ในระหว่างการแข่งขัน)
     ในเกมการเล่นประกอบด้วย การกระโดดมากกว่า 50 ครั้ง วิ่งประมาณ 1,500 – 2,000 เมตร จึงต้องมีการฝึกจึงต้องเน้นพัฒนากล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนโลหิต และความสามารถทางกายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น อย่างไรก็ตามเพื่อการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายเป็นการปรับสภาวะของทางร่างกายให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายมีประสิทธิภาพในการทำหน้าที่สูง และมีการทำงานประสานกันของระบบต่างๆ  ของร่างกายได้เป็นอย่างดี มนุษย์ทุกคนคนย่อมมีสมรรถภาพทางกาย ในแต่ละด้านมากน้อยต่างกัน เราจะทราบว่าเรามีสมรรถภาพในด้านใด มากหรือน้อยได้โดยการทดสอบ สมรรถภาพทางกายด้วยแบบทดสอบ มาตรฐาน การฝึกเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายจะต้องฝึกความอดทนและความแข็งแรงควบคู่กันไป ส่วนการที่จะฝึกเน้นด้านใด มากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการสมรรถภาพทางกายด้านใดเป็นสำคัญของแต่ละบุคคล
    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น